เปิดเช่าบูชา "พญาเวนไตยราชปักษี มหาวิหคเทพไอศวรรย์บริรักษ์ "

ชื่อผลงาน พญาเวนไตยราชปักษี มหาวิหคเทพไอศวรรย์บริรักษ์ ประติมากรรุ่นใหม่ มากพรสวรรค์ นาย สรรสร้าง ไทยดี

จัดสร้างจำนวนด้วยเนื้อโลหะบรอนซ์สำริด นิวซีแลนด์ จำกัดเพียง 69 องค์

1. Version ED กายสีดำโลหะ ทรงเครื่องและปีกสีทอง จัดสร้างจำนวนเพียง 49 องค์ ทุกองค์มี ระบุเบอร์ 1-49

ขอเชิญร่วมสั่งจอง เช่าบูชาในราคา 90,000 บาท

2. Version AP1 กายสีเทาโลหะ ทรงเครื่องสีเทาโลหะ

3. Version AP2 กายสีเนื้อ ทรงเครื่องสีทองดำ

4. Version AP3 กายสีเขียวหยก ทรงเครื่องสีทองดำ

5. Version AP4 กายปิดทองคำเปลว ตกแต่งสีแดงชาติ

AP ทุกๆ Version จัดสร้างจำนวนเพียง 5 องค์ เบอร์ 1,8,9,88,99

ขอเชิญร่วมสั่งจอง เช่าบูชาในราคา 95,000 บาท

ขนาด

ความสูงจากเศียรถึงปลายเท้า 65 cm

ส่วนกว้างสุดจากปีกซ้ายถึงขวา 36 cm

ความสูงจากเศียรถึงขอบล่างสุดของฐานไม้ 90 cm.

และขนาดหน้าตัก (จากเข่าถึงเข้า) 9 นิ้ว หรือประมาณ ประมาณ 22 cm.

น้ำหนักรวมประมาณ 35 กก.

องค์ครุฑประมาณ 19 กก.

ฐานหินประมาณ 14-15 กก.

ปีที่สร้าง 2565 หล่อโดยโรงหล่อไฟน์อาร์ตคาสติ้ง

สำหรับท่านที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Inbox: http://m.me/agaldecor Line Official: https://lin.ee/k1w5t7y Website: https://www.agal.co.th/ เบอร์โทรติดต่อ: 086-340-9321, 083-260-4141 #agaldecor #TrueEssenceOfTime

ในตำนาน ณ ป่าหิมพานต์ เป็นที่อาศัยของสัตว์มีอิทธิฤทธิ์มากมายเช่น คชสีห์ กินรี กินนร ในบรรดาเทพอันมิได้เกิดจากวงศ์เทพมีสองอย่างที่เป็นที่เคารพบูชา และมีฤทธิ์มากคือ หนึ่งพญานาคจ้าวแห่งบาดาล และอีกองค์หนึ่งคือพญาครุฑจ้าวแห่งเวหา พญานาคนั้นมีวิมานอันเป็นทิพย์อยู่ในเมืองบาดาล ส่วนพญาครุฑนั้นก็มีวิมานฉิมพลีอยู่ที่เชิงเขาไกรลาส ในบรรดาครุฑมีตำนานพญาเวนไตย อันเป็นจ้าวแห่งวิหคซึ่งได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุด

พญาเวนไตย ถือเป็นดั่งสัญลักษณ์ของความทรงพลัง สง่างามเปี่ยมไปด้วยขันติบารมีและศรัทธากตัญญู ต้นกำเนิดที่ถูกเล่าขานจนกลายเป็นตำนานว่า “พญาเวนไตย” มาพร้อมกับพละกำลังมหาศาล มีรัศมีสีทองที่เปล่งประกายสว่างกว่าพระอาทิตย์ มีศีรษะ จงอยปาก ปีกเหมือนนกอินทรี และร่างกายแขนขาเหมือนมนุษย์ ครั้งหนึ่งพญาเวนไตยได้ช่วยเหลือเหล่าฤาษีไว้ ระหว่างเดินทางไปยังเทวโลกเพื่อหาน้ำอมฤต ซึ่งใช้สำหรับช่วยไถ่ความเป็นทาสให้แก่มารดาของตน ด้วยจิตใจที่งดงามเหล่าฤาษีจึงมอบชื่อ “ครุฑ” อันมีความหมายว่าผู้รับภาระอันหนัก ให้กับพญาเวนไตยอีกชื่อหนึ่ง และได้ให้พรไว้ว่า “ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ให้สำเร็จตามประสงค์ ให้มีพละกำลังมหาศาลที่ใครก็มิอาจต้านทานได้” และด้วยเหตุผลที่พญาเวนไตยต้องการน้ำอมฤตเพื่อไถ่ความเป็นทาสให้แก่ผู้เป็นมารดาของตน พระนารายณ์รับรู้ถึงความกตัญญูนี้จึงได้มอบน้ำอมฤตให้พร้อมกัน

ตำนานของพญาเวนไตยยังถือเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งการเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา การกลายมาเป็นสัญลักษณ์บนธงมหาราชในสมัยรัชกาลที่ 5 และในปัจจุบันดังจะเห็นว่าสัญลักษณ์ครุฑปรากฏอยู่บนตราประจำสถานที่ราชการต่าง ๆ ของรัฐบาลไทย

สัญลักษณ์ของความทรงพลังและเปี่ยมไปด้วยบารมีนี้ ทำให้ผู้ที่ครอบครอง มีความเชื่อ มีความศรัทธาในพญาเวนไตยราชปักษี เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง อำนาจบารมี และความสำเร็จ หรือหากมองในมุมของศิลปะ พญาเวนไตยก็ถือเป็นศิลปะที่ทรงคุณค่า เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ ความหมาย และแฝงไปด้วยความเชื่อที่ถ่ายทอดออกมาผ่านเทพผู้ทรงพลัง

จากตำนานเล่าขานอันทรงคุณค่า AGAL นำพญาเวนไตยมาตีความใหม่ ต้องการสื่อให้รู้สึกถึงความเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง ทรงพลัง พร้อมจะกระโจนเข้าสู้กับปัญหา ท่ามกลางลมพายุที่กำลังพัดรุนแรง แต่แฝงไปด้วยความสงบนิ่ง สุขุม น่าเกรงขาม พญาเวนไตยถูกออกแบบใหม่ให้มีความเป็นงานร่วมสมัยแบบไฟน์อารท์ ดูแล้วแตกต่างจากศิลปะครุฑแบบประเพณีนิยม แต่ยังคงสืบทอดและเคารพศิลปะดั้งเดิมขององค์ครุฑไว้ อีกทั้งลักษณะของกล้ามเนื้อที่มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์มากขึ้น แต่ก็ยังมีลักษณะของความเป็นเทพ และมีรายละเอียดเขี้ยวเล็บของพญาอินทรี