top of page

Behind The Painting No.1 - Starry Night ภาพในตำนาน ที่ถูกวาดในโรงพยาบาลจิตเวช


Behind The Painting No.1

.

หากพูดถึงศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง Van Gogh หลายคนต้องนึกถึงฝีมือการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และจิตวิญญาณ ลงไปในผลงานอันเลื่องชื่อ แต่รู้หรือไม่ว่าอันที่จริงในช่วงระหว่างที่ Van Gogh มีชีวิตอยู่ เขากลับไม่ได้ถูกจดจำในฐานะศิลปินระดับโลก แต่เป็นเพียงแค่ศิลปินผู้บ้าคลั่งที่ตัดหูตัวเอง แถมยังมองผลงานของเขาเป็นเพียงผลพวงจากภาวะที่บิดเบี้ยวทางจิตใจเท่านั้น

.

Van Gogh หรือชื่อเต็ม Vincent Willem van Gogh เกิดที่เมือง Brabant ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในครอบครัวของบาทหลวง สมัยเด็กเขามีบุคลิกขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก และค่อนข้างเก็บตัว จนเมื่ออายุได้ 16 ปี จึงเริ่มทำงานเป็นลูกจ้างในแกลอรี่ขายงานศิลปะของคุณลุง แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็โดนไล่ออกเนื่องจากความซื่อตรงที่เขาไปบอกลูกค้าว่าแกลอรี่นี้หลอกขายงานศิลปะชั้นเลวให้หลายต่อหลายครั้ง

.

เขาเริ่มสเกตซ์ภาพคนงานในเหมืองระหว่างที่ย้ายไปอาศัยในเหมืองถ่านหินต่างเมือง ที่ที่เขาตั้งใจจะเป็นนักเทศน์แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงเริ่มวาดภาพอย่างจริงจังมากขึ้นด้วยการใช้ปากกาและสีน้ำ จนเมื่อช่วงปี ค.ศ. 1881 เขาก็เริ่มเข้าเรียนศิลปะกับ Anton Mauve จิตรกรชั้นครูแห่งสถาบัน Hague School ในเมือง The Hague ช่วงนี้เองที่เขาวาดภาพ Still Life with Cabbage and Clogs ออกมา ด้วยการใช้สีเอิร์ธโทนหม่น ๆ ผสมผสานกับการใช้แสงสว่างสดใส ที่จะกลายมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาในภายหลัง

.

หลังจากนั้น Vincent ก็วาดภาพออกมาอีกหลายภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพ View of The Sea ในปี 1882 หรือ ภาพ Bulb Field ในปี 1883 ภาพ The Potato ในปี 1885 และอีกมากมาย จนเมื่อปี 1888 เขาย้ายไปอยู่ที่เมือง Arles ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส และเช่า “บ้านสีเหลือง” ที่ที่เขาผลิตผลงานชื่อด้งออกมามากมาย อีกทั้งยังเป็นที่ที่เริ่มต้นเรื่องราวอันโด่งดังอย่างการตัดใบหูของตัวเองเขาเองด้วย

.

หลังจากที่เขาย้ายเข้ามาที่บ้านสีเหลือง Vincent ก็ตระเตรียมห้องสำหรับต้อนรับเพื่อนศิลปินอย่าง Paul Gauguin เพื่อมาทำงานร่วมกัน แต่ฝันของเขาก็จบลงแบบไม่คาดคิด เมื่อวิธีการทำงานของทั้งสองแตกต่างกันสุดขั้ว เพราะ Vincent ชอบทำงานกลางแจ้งที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติและสามารถถ่ายทอดลงไปในผืนผ้าใบได้อย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่ Paul ชอบการทำงานแบบขั้วตรงข้ามกับ Vincent อย่างสิ้นเชิง จนถึงขั้นมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ผลจบลงที่ Vincent หยิบฉวยมีดโกนขึ้นมาเพื่อที่ทำร้าย Paul แต่ท้ายที่สุดเขาก็ใช้มีดโกนนั้นเฉือนส่วนหนึ่งของใบหูของตัวเองออกแทน นั่นจึงเป็นจุดจบของมิตรภาพของทั้งคู่

.

ความทรมานจากเหตุการณ์ที่ Vincent พบเจอทำให้เขามีอาการป่วยทางจิตและต้องเข้ารับการักตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช Saint Paul ในเมือง Saint-Rémy-de-Provence แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพ Self Portrait with Bandaged Ear ภาพ Starry Night Over the Rhône และภาพชื่อดังก้องโลกที่ใครหลายคนต้องรู้จักอย่างภาพ Starry Night ก็ถูกวาดระหว่างที่ Vincent พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชนี่เอง

.

ภายหลังอีกไม่กี่ปีที่เขาออกจากโรวพยาบาลจิตเวช Vincent ก็เริ่มมีอาการที่ย่ำแย่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังคงสร้างผลงานออกมาเรื่อย ๆ อีกกว่า 80 ชิ้น ซึ่งล้วนแต่ใช้สีสันสดใส เดือนสุดท้ายในชีวิตของเขาเปลี่ยนมาใช้โทนสีเขียว น้ำเงิน และใช้เส้นโค้งเป็นคลื่นบิดรูปทรงของวัตถุต่าง ๆ และสร้างความเคลื่อนไหวในรูปภาพอย่างทรงพลัง เรียกได้ว่าผลงานของเขาก้าวล้ำความเป็นศิลปะ Impressionism ในยุคก่อนหน้า จนกลายมาเป็นหนึ่งในรากฐานของงานศิลปะ Post-Impressionism ในที่สุด

.

แต่จุดจบในชีวิตของ Vincent ก็มาถึงเร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เมื่อภายหลังจากเขาวาดภาพ Wheatfield with Crows ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นภาพสุดท้ายในชีวิตได้ไม่นาน ในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1890 มีคนพบ Vincent ถูกยิงที่หน้าอกอาการบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเสียชีวิตในอีกสองวันถัดมา ด้วยอายุเพียง 37 ปีเท่านั้น รายงานอย่างเป็นทางการระบุว่าเขาใช้อาวุธปืนยิงตัวเองหวังจะฆ่าตัวตาย แต่ก็เป็นที่เชื่อกันว่า Vicent น่าจะเสียชีวิตจากการมีปากเสียงกับเด็กหนุ่มในวัยคึกคะนอกละแวกนั้นมากกว่า

.

ในระหว่างที่ Vincent มีชีวิตอยู่ เขาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไปกว่า 2,100 ชิ้น ภายในช่วงเวลาแค่สิบกว่าปี แต่ก็ประสบความล้มเหลวทางรายได้ในอาชีพศิลปิน ด้วยการขายภาพวาดไปได้เพียงชิ้นเดียวตลอดทั้งชีวิต แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิตลง ภาพวาดของ Vincent ก็โด่งดังขึ้นมาด้วยการผลักดันของ Johanna van Gogh-Bonger ภรรยาหม้ายของ Theo น้องชายของ Vincent จนทำให้ภาพวางบางภาพมีราคาสูงที่สุดในโลก บางภาพก็มีราคากว่า 100 ล้านดอลล่าร์เลยทีเดียว

.

สามารถเข้าชมเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Antique ได้ที่โชว์รูม AGAL ซอยรามอินทรา 23 แยก 16

Location: https://goo.gl/maps/wiAoiFBPZEWH87cP7

หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง

Inbox: http://m.me/agaldecor

Line Official: https://lin.ee/k1w5t7y

Website: https://www.agal.co.th/

เบอร์โทรติดต่อ: 086-340-9321, 083-260-4141






Comments


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

bottom of page